สถิติ
เปิดเมื่อ18/01/2012
อัพเดท3/08/2012
ผู้เข้าชม62509
แสดงหน้า110303
ปฎิทิน
April 2024
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
    


มอสสาด:องค์กรสายลับข้ามชาติ

อ่าน 14692 | ตอบ 3
           มอสสาด หรือ องค์กรข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล  ภาษาอาหรับเรียกว่า อัลมอสสา ลิ้ล อิสติคบารัต วั้ล มะฮ์อาม อัล อัซซะฮ์  ซึ่งถือเป็นสำนักข่าวกรองแห่งชาติอิสราเอล
       มอสสาดมีหน้าที่เป็นหน่วยปฏิบัติการ ที่ทำการรวบรวมข่าวกรอง  และประเมินข่าว ทุกข่าวที่เป็นที่น่าส่งสัย  และรวมถึงเป็นหน่วยงานทางปทหารออกปฏิบัติการการสังหารและปฏิบัติการนอกเขตแดนอิสราเอล มีหน้าที่นำพาชาวยิวและคุ้มกันและปกป้องชาวยิวในการออกจากประเทศต่างๆ  เป็นการปฏิบัติการลับ โดยขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลโดยตรง
 
การจัดองค์กร
           สำนักงานใหญ่สุดก้คือ เดอะ มอสสาด อีส คอลเลคชั่น  ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการมอบหมายงานทำจารกรรมในต่างประเทศ  หน่วยงานนี้ดำเนินงานในนโยบายแบบหลากหลายที่ครอบคลุมทั้งการทูตแบบในระบบและนอกระบบ ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติการทางการเมือง  มีกรมประสานงานเป็นผู้รับผิดชอบในการทำงานร่วมกับพันธมิตรจากสำนักงานข่าวกรองในประเทศพันธมิตร
        ทั้งที่มีความสัมพันธืแบบปกติ  และไม่ปกติกับอิสราเอล   นอกจากนี้มอสสาดยังมีฝ่ายวิจัย  ในการผลิตข่าวกรอง  และรวมถึงฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาเครื่องมือเพื่อกการทำกิจกรรมของมอสสาด
 
ปฏิบัติการภาคสนาม
         เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทางด้านข่าวกรอง จะถูกเรียกว่า คาสเสส (หรือภาษาฮิบรูเรียกว่า อาร์เครอนม์ ซึ่งเป็นตัวย่อหมายถึงเจ้าหน้าที่ของคอเลคชั่น   โดยจะทำงานคล้ายกับหน่วยข่างกรองของ ซีไอเอ  โดยจะฝังตัวอยู่ในยุโรปและตะวันออกกลาง เป็นเวลานานถึงสามสิบหรือสี่สิบปี   นอกจากนั้นมอสสาดยังนิยมให้อาสาสมัคร หรือ สเอยานีม ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการปฏิบัติงานในแต่ละครั้ง  โดยคัดเลือกเอาจากชาวยิวพลัดถิ่น  หรือคนยิวที่ไม่ได้มาจากอิสราเอล ซึ่งเป็นพลเมืองที่อยู่ในพื้นที่
 
ประวัติความเป็นมา
       มอสสาดก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 1949  ในรูป 'สถาบันกลางเพื่อการประสานงาน' ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี เดวิด เบนกูเรี่ยน    เบนกูเรี่ยน ต้องการให้หน่วยงานนี้เป็นองค์กรกลางในการที่ประสานงาน เพื่อการปรับปรุงและร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆในการรักษาความปลอดภัยภายใน  ตลอดจนรวมถึงเป็นองค์ประสานงานสำหรับการปฏิบัติการลับทางทหารที่เรียกว่า 'เอมาน AMAN   นอกจากนั้นยังเป็นหนาวยงานในการรักษาความมั่นคงภายใน (ชินแบด shin bet )และยังเป็นหน่วยงานกลางสำหรับการประสานงานในการดำเนินการทางการเมือง ของกระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอล
 
          ในเดือนมีนาคม 1951 ได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรให้เป็นหน่วยขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี
 
 
คำขวัญ
         คำขวัญที่มีชื่อเสียงขององค์กรนี้ก็คือ 'บีช อาร์ช บอชท์  โทช ชาลัค มีลคามีช'  ซึ่งมาจากคัมภีร์ไบเบิ้ล (24:6 สุภาษิต) ที่ว่า 'คำแนะนำที่ชาญฉลาดจะช่วยให้คุณเอาชนะศึกได้'  อสโทวาสกี้ อธิบาย คำขวัญีนี้ว่ามันคือ กลศึกของการสงคราม  ส่วนคำขวัญที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในเร็วๆ ไดเปลี่ยนจากเดิมเป็นข้อความจากไบเบิ้ล คือ 11:14 ที่ว่า ' ชาติใดก็ตามที่ปราศจากคำแนะนำ ย่อมต้องอยู่ในความตกต่ำ  หากชาติใดที่อุดมไปด้วยคำแนะนำความปลอดภัยและความอุดทสมบูรณ์จะประสบกับชาติเหล่านั้น
 
ผู้อำนวยการ
โรยฮัน ชัยรอฮ์ ปี 1949-52
อีวเซอร์ ฮีลล์  ปี 1953-63
เมียร์  อามิด  ปี 1963-68
ซวีร์  ซาเมีย  ปี 1968-73
ยิซซัก โฮฟี่  ปี 1973-82
เนฮามิน เอ็ดมอนี่  ปี 1982-89
ชาร์ปทรี  ทรีเว็ด  ปี 1989-96
แดนนี่ ยัรมา  ปี 1996-1998
อเฟรม ฮาราวี่   ปี 1998-2002
,มิวร์  เดแกน  ปี  2002-2011
จามีล ไพล์ดอร์   ปี 2011-ปัจจุบัน
 
รายงานการปฏิบัติการ
 
ทวีป อเมริกา
           อาเจนติน่า
           ในปี 1960   มอสสาดพบว่า ผู้นำของนาซีคนหนึ่งชื่อว่าอดอฟ ไอค์มัน หลบอยู่ในอาร์เจนติน่า   ทีมมอสสาด 5  คน ได้ลอบเข้าไปปฏบัติการลักพาตัว อดอฟออฟมัน  เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม  เรียกปฏิบัติการครั้งนั้นว่า  อาร์เจนติน่าประท้วงการกระทำดังกล่าวต่อสหประชาชาติ ถือว่าเป็นการละเมิดอธิปไตย
 
          สหรัฐอเมริกา
       ช่วงทศวรรษที่ 1990  มอสสาดค้นพบว่า ตัวแทนของกลุ่มฮิซบุลลลอฮืในสหรัฐ ได้พยายามที่จัดซื้อ วัสดุต่างๆในการผลิตอาวุธ  มอสสาดได้ร่วมมือกับข่าวข่าวกรองของสหรัฐ เข้าดำเนินการจับกุม ทำให้แผนการณ์ของฮิซบุลลอฮ์ ต้องยุติลง
      สิงหาคม 2001 มอสสลามได้แจ้งเตือนซีไอเอ ถึงการเข้ามาของผู้ก่อการร้าย 200 คน ที่กำลังเดินทางเข้าสู่สหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่สหรัฐและชาวอเมริกัน แต่สหรัฐยังคงประเมินความน่าเชื่อถือ  จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ 11  กันยายน  จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ 911 ทำให้สหรัฐมั่นใจการแจ้งเตือนของมอสสาดมากขึ้น
 
          อุรุกวัย
          มอสสาด ได้ทำการลอบสังหาร  Latvian Nazi ที่ทำงานร่วมกับ  Herberts Cukurs  ในปี 1965
 
ยุโรป
          เบลเยี่ยม

        มอสสาดได้มีส่วนสำคัญในการลอบสังหารวิศวกรชาวคานาดา เจอราด บลู   เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 1990  ที่อพาร์ทเม้นของเขา  บลู คือหนึ่งในวิศวกร ที่เข้า ร่วมทำงานในอิรัก ในโครงการซุปเปอร์กัน
 
          บอสเนียเฮอร์เซโกวีน่า
         มอสสาดได้ปฏิบัติการอพยพชาวอิสราเอลออกจากเมืองซาราเจโวไปยังอิสราเอลในปี 1992-1993
 
          ไซปรัส
           มอสสาดได้ปฏิบัติการสังหารฮุเซน อัลบาชีร ในนิโคเซีย ในปี 1973
 
          ฝรั่งเศส
          ในปี 1979 สังหาร Zuheir Mohsen
          สังหาร  Atef Bseiso ในกรุปารีส ปี 1992
          สังหาร Yehia El-Mashad  ในปี 1980
          สังหาร Dr. Mahmoud Hamshari  ในปี 1972
          สังหาร  Dr. Basil Al-Kubaissi   ในปี 1973
          สังหาร Mohammad Boudia   ในปี 1973
         5 เมษายน 1979 มอสสาดอ้างว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของปฏิกรณ์นิวเครียของอิรัก ถูกสร้างมาจากเมืองตูลุส  ทั้งๆที่ องค์กรสิ่งแวดล้อมไม่เคยรับรู้มาก่อน  และจึงเป็นเหตุผลให้อิสราอีล บินถล่มอิรัก ในปี 1981
 
           มอสสาด มีส่วนในการลักพาตัว  Mehdi Ben Barka  ในปี 1965
 
            เยอร์มัน
          ปฏิบัติการ Plumbat ในปี 1968 ซึ่งเป็นปฏิบัติการ โครงการนิวเครีย Lekem-Mossad  เรือบรรทุกสินค้า และวัตถุนิวเคลียร์ ได้หายไปจากเส้นทางของมัน  คาดว่า มันได้ถูกขโมยไปยังอิสราเอล โดยหน่วยของมอสสาด
 
        ในปี 1978  มอสสาดอยู่เบื้องหลังในการสังหารนักเคลื่อนไหว Dr Wadie Haddad,  ผู้นำขบวนการเคลื่อนไหว PFLP-EO  หลังจากสังหารผู้นำองค์กร  องค์กรนี้ก็ล่มสลายลง
 
           มอสสาดพบว่า กลุ่มฮิซบุลลอฮ์ ได้คัดเลือกชาวเยอร์มันที่ชื่อ Steven Smyrek, ให้เป็นนักท่องเที่ยวเข้าไปอิสราเอล   มอสสาดได้ร่วมมือ  ซีไอเอ  หน่วยสืบราชการลับเยอร์มัน  และสภาความมั่นคงของอิราเอล ให้เฝ้าระวัง  และได้ดำเนินการจับกุมทันที
 
           กรีซ
           ในปี 1973  มอสสาดได้ดำเนินการสังหาร Zaiad Muchasi โดยการระเบิดห้องพักของเขาที่โรงแรม ในเมืองเอเธน
 
          อิตาลี่
          มอสสาดได้ลักพาตัว Mordechai Vanunu ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนิเคลีย ในปี 1986
          มอสสาด ได้สังหาร  Wael Zwaiter 
 
         มอลต้า
         ในปี 1995 มอสสาดได้สังหาร Fathi Shiqaqi ซึ่งเป็นผู้นำ  Palestinian Islamic Jihad
 
         นอร์เวย์
    21 กรกฏาคม 1973 บริกรชาวมอรอคโคถูกสังหาร เนื่องจากมอสสาดเข้าใจผิดว่าเขาคือ Ali Hassan Salameh   ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่ม Black September
 
        อังกฤษ
      มอสสาด ได้ลักพาตัว Mordechai Vanunu ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในโปรแกรมนิวเคลียร์  ถูกตั้งข้อหากบฎในการเปิดเผยโปรแกรมนิวเครียของอิสราเอล กลับไปยังอิสราเอล
 
     มอสสาดได้ช่วยหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษในกรณีการระเบิดรถไฟใต้ดินในลอนดอน (7/7)  และโยงกรณีการระเบิดให้เข้ากับมุสลิม โดยอ้างว่าเป็นฝีมือของอัลกออิดะฮ์ ที่ฝังตัวอยู่ในอังกฤษ
 
     โซเวียตรัสเซีย
      มอสสาดได้มีบทบาทเข้าไปช่วยเหลือองค์กรทางศาสนาของยิว  หลังจากที่ถูกรัฐบาลโซเวียตปราบปรารม  และสะดวกในการเข้าออกโซเวียต  ได้อย่างสะดวก
 
     ยูเครน
      เดือนกุมภาพันธ์ 2011  Dirar Abu Seesi   วิศวกรชาวปาเลสไตน์ ๔กจับกุมตัวและถูกส่งไปยังมอสสาด
 
 
ตะวันออกกลาง
 
        อิยิปต์
       ในปี 1956 หน่วยสืบราชการลับ  ได้ตัดระบบการสื่อสารระหว่างพอร์ดเซน  กับไคโรออกจากกัน   สายลับ       ของมอสสาด Wolfgang Lotz,  ซึ่งถือสัญชาติชาวเยอร์มันตะวันตก ได้แทรกซึมเข้าไปในอิยิปต์ ในปี 1957  ได้ทำการจารกรรมข้อมูลเกี่ยวกับขีปนาวุธ และเทคโนโลยีทางทหารของอียิปต์ และทำการรวบรวมรายชื่อของนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันที่ทำงานให้กับรัฐบาลอิยิปต์
 
           หน่วยสืบราชการลับ ได้มีส่วนสำคัญในการชี้เป้าในสงครามหกวัน
           ปฏิบัติการ บัลมูซ6  หน่วยสืบราชการลับมีส่วนสำคัญในการโจมตี หน่วยคอมมานโด ในเขต กรีนแลนด์
           ปฏิบัติการ Damocles   เป็นการปฏิบัติการล่าสังหารนักวิทยาศาสตร์เยอร์ที่รับจ้างสร้างขีปนาวุธให้อิยิปต์
 
        อิหร่าน
         ก่อนการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน 1978-79  มอสสาดได้สร้างหน่วยปฏิวัติการพิเศษ savak  ขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างสหรัฐอเมริกา อิหร่าน และอิสราเอล
 
          มอสสาดได้ค้นพบโครงการนิวเครียของอิหร่าน ก่อนที่จะเป็นที่รู้จักกัน
 
          มอสสาดมีส่วนสำคัญในการระเบิด สังหารชาวอิหร่าน  ที่ฐานที่มั่นของกองกำลังรักษาการปฏิวัติ  เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2010   การระเบิดครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บมากกว่า 10 คน
 
           มอสสาดมีส่วนในการสังหารนักฟิสิกชาวอิหร่านในปี 2010
 
       มอสสาด มีส่วนในการสังหาร Masoud Alimohammadi, Ardeshir Hosseinpour, Majid Shahriari, Darioush Rezaeinejad และ Ahmadi-Roshan;   ซึ่งเป็นนักวิทยาศาตร์ที่สำคัญของอิหร่าน
 
         อิรัก
         ในปี 1978-81 อิสราเอลมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับนิวเคลียอิรัก
 
    ปฏิบัติการฟินิกซ์  ระหว่างปี 1978-81  ทำการจารกรรมข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลีย และนักวิทยาศาสตร์อิรัก ในฝรั่งเศส
 
          ปฏิบัติการ  Bramble Bush II   ในปี 1990  มอสสาดได้ส่งหน่วยคอมมานโดเข้าไปในจอร์แดนเ ในโครงการปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ ปฏิบัติการครั้งนั้นเรียกว่า ดีเสีฐ ฟ๊อกซ์
 
       จอร์แดน
       มอสสาดได้ดำเนินการแก้แค้นฮามาส  โดยแฝงเป็นนักท่องเที่ยวชาวคานาดา เข้าไปลอบวางยาพิษ   Khaled Mashal   ผู้แทนฮามาสในจอร์แดน  กันยายน 1997 ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่จอรแดนจับตัวมอสสาดได้ และนำมาแถลงข่าว จนทำให้ เนตันยาฮู ต้องบินไปขอโทษกษัตริย์จอร์แดน
 
        เลบานอน
         22 มกราคม  1979 มอสสาด ใช้คาร์บอม สังหาร Ali Hassan Salameh,  ผูนำกลุ่ม Black September  ที่กรุงเบรุต
 
        ในปี 1972  คาร์บอมสังหาร Ghassan Kanafani,
        ในปี 1992  ลอบสังหาร อับบาส อัลมุซาวี เลขาธิการใหญ่ของฮิซบุลลอฮ์
        2002 ลอบสังหาร  Jihad Ahmed Jibril   ผู้นกองกำลัง  PFLP-GC ในเบรุต
        2004  ลอบสังหาร Ghaleb Awwali,  เจ้หน้าที่อาวุโสของฮิซบุลลอฮ์
        2006  ลอบสังหาร Mahmoud al-Majzoub,  ผู้น  Palestinian Islamic Jihad  ในไซดอน
      มอสสาดได้จัดตั้งเครือข่ายสายลับในเลบานอน  โดยเลือกจาก ชาวดรูส  คริสเตียน และมุสลิมซุนนี  รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเลานอน เพื่อ สอดแนมกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ ซึ่งมีกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติ ชาวอิหร่านให้การสนับสนุน  บางคนเคยเริ่มงานกับมอสสาดมาตั้งแต่ปี 1982
       ในปี 2009 เมื่อกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ ได้เข้ามามีส่วนสำคัญในเรื่องของการรักษาความมั่นคงของชาวเลบานอน  และได้มีการประสานร่วมกันกับหน่วยสืบราชการลับของซีเรีย  อิหร่าน และรัสเซีย  สายลับที่ทำงานให้กับอิสราเอลถูกจับกุมตัวมากกว่าร้อยคน  และได้เปิดโปงการทำงานของมอสสาดที่ได้สังหารผู้นำอาหรับไปเป็นจำนวนมาก
 
ปากีสถาน
          กันยายน 2003  มุชัรรัฟ  ได้เปิดความสัมพันธ์ลับกับมอสสาด โดยมีสหรัฐเป็นตัวเชื่อม  2009  หน่วยข่าวกรองอินเดีย   ได้ร่วมมือกับหน่วยข่าวของปากีสถาน เปิดเปิง และเข้าจับกุมเจ้าหน้ามอสสาดที่แฝงมาในฐานะของทูตวัฒนธรมอิสราเอล ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลิตยาบ้า
 
ซีเรีย
             Eli Cohen  ได้แทรกซึม เข้าไปจารกรรม ข้อมูลทางด้านกำลีงรบของซีเรีย  และมีบาทบาทสำคัญที่ทำให้ซีเรีย ต้องพ่ายแพ้ในสงครามหกวัน  ต่อมาเขาถูกเปิดเผยโดยหน่วยข่าวกรองของรัสฌวีย ว่าเขาปฏิบัติการจารกรรมให้กับมอสสาด
         มอสสาดได้สังหากร Izz El-Deen Sheikh Khalil  เจ้าหน้าที่อาวุโสทางทหารของฮามาส ในดามัสกัส ในเดือนกันยายน 2004
            2008     ได้สังหาร Muhammad Suleiman  หัวหน้าผู้ควบคุมโปรแกรมนิวเคลียของซีเรีย ในเมืองตูลุส
มองสาด ได้สังหาร Imad Mughniyah  ผู้นำอาวุโสของฮิซบุลลอฮ์
 
สหรัฐอาหรับเอมิเรต
             มกราคม 2010 มอสสาด ได้ดำเนินการสังหาร Mahmoud Al-Mabhouh,   ผู้บัญชาการอาวุสทางทหารของฮามาส ที่ดูใบ   ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจดูใบ ได้รวบตัวเจ้าหน้าที่มอสสาดที่ทำการสังหาร โดยปรากฏหลักฐานจาก้ล้องวงจรปิด   แต่ปรากฏว่า หน่วยปฏิบัติการมอสสาด ได้ใช้พาสสปอตปลอม  และแอบลอบเข้ามา จนถูกจับกุมในที่สุด ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าตำรวจเตียมส่งอัยการให้ทำการยื่อนฟ้องนายเนตันยาฮุ นายกรัฐมนตรีอิสลามเอล ที่เป็นผู้สั่งการในการลอบสังหารครั้งนี้
 
อัฟริกา
           มอรอคโค
          ในเดือนกันยายน 1956  มอสสาดได้สร้างโครงข่ายลับในการลักลอบนำชาวยิวเข้าสู่มอรอคโค ภายหลังจากที่รัฐบาลมอรอคโคได้ออกคำสั่งห้ามคนยิวเข้าสู่มอรอคโค
          ในปี 1991  มอสสาดสองคนได้แทรกซึมเข้าไปติดตั้งอุปกรณ์ชี้เป้า บนเรือบรรทุกสินค้าที่จะเดินทางไปซีเรียที่ท่าเรือคาซาบังก้า  และในที่สุดก็จมเรือดังกล่าวลงกลางทะเล
 
           ตูนีเซีย
            ปี 1988 ได้สังหาร Khalil al-Wazir (Abu Jihad)
            Salah Khalaf  ได้ถูกสังหารโดยมอสสาดในปี  1991
 
         อูกันดา
         ปฏิบัติการ Entebbe  ปิดสนามบินในอูกันดา
 
         อัฟริกาใต้
        มอสสาดได้ร่วมมือกับหน่งวยข่าวกรองของอัฟริกาใต้  ได้ลักพาตัวสองนักธุรกิจอิหร่าน ในเมืองโยฮันเบิกร์ เพื่อเตียมการจัดซื้ออาวุธที่ทันสมัย   ภายใต้ จึงได้ผลักดันนักธุรกิจทั้งสองออกนอกประเทศไป
 
           ซูดาน
          หลังการระเบิด MAIA ในปี 1994   มอสสาดได้ส่งกองกำลังพิเศาเข้าโจมตีสถานทูตอิหร่านในกรุงคาร์ทูม
 
          ซิมบาบวี
    มอสสาดปฏิบัติการลับอพยพยาวยิวซิมบาเวออกจากประเทศเนื่องจากกลัวการประหัตประหารโดยรัฐบาลซิมบาบเวห์ ซึ่งเป็นพันธืมิตรกับองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ และลิเบีย 
 
โอเซเนีย
          นิวซีแลนด์
          กรกฏาคม 2004  รัฐบาลนิวซีแลนด์ ได้ออกมาตราการคว่ำบาตรทางการทูตกับอิสราเอล 
 

 
_
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ความคิดเห็น :
1
อ้างอิง

red octrober
คุณเป็นสายลับที่ฉลาดและเจ้าเล่ห์ที่สุด
 
 
red octrober [124.122.68.xxx] เมื่อ 11/06/2012 15:22
2
อ้างอิง

้ำหนะฟท
นี้มันสายลับหรือมือสังหารวะเนีย 
 
้ำหนะฟท [223.207.213.xxx] เมื่อ 17/01/2013 20:56
3
อ้างอิง

Sue
 
Sue [68.202.141.xxx] เมื่อ 8/12/2019 04:59
ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :